มาดูกันว่า 33 แชมป์ พรีเมียร์ลีก ในสายตา The Atlantic ทีมไหนจะถูกยกให้เป็นโคตรทีมที่สมบูรณ์แบบ การจัดอันดับนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องคุณภาพ แต่ยังวัดกันที่ความมันส์และเรื่องราวในแต่ละซีซั่น ทีมรักของคุณจะไปถึงอันดับไหน ต้องห้ามพลาด
อันดับที่ 33 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปี 1996
ลองมาเจาะลึกฤดูกาล 1996 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันหน่อย หลายคนอาจจะมองว่าซีซั่นนี้มันจืดสนิทจนแทบจะเลือนหายไปจากความทรงจำของแฟนบอลปีศาจแดง แต่เชื่อไหมว่าภายใต้ความเงียบงันนั้น มันก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
จริงอยู่ที่ภาพจำหลักๆ ของปีนั้นอาจจะหนีไม่พ้นลูกยิงสุดสวยครึ่งสนามของดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ที่ฉายแววซูเปอร์สตาร์ หรือจะเป็นเกมที่สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วเกาะอังกฤษ
เท่านั้นยังไม่พอ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปีนั้นยังเคยบุกไปโดนนักบุญ เซาแธมป์ตัน สอนเชิงด้วยสกอร์มโหฬารถึง 6-3 อีกด้วย ลองคิดดูสิว่าสำหรับทีมระดับปีศาจแดงแล้ว การพ่ายแพ้ด้วยสกอร์แบบนี้มันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน
และเมื่อมองไปที่คะแนนรวมตลอดทั้งฤดูกาลที่ทำได้เพียง 75 คะแนน ก็ยิ่งตอกย้ำว่ามาตรฐานของทีมในตอนนั้นอาจจะไม่ได้สูงเท่ากับยุคทองที่เราคุ้นเคยกัน หากเทียบกับคะแนนเฉลี่ยในปัจจุบันแล้ว แน่นอนว่า 75 คะแนนอาจจะไม่เพียงพอต่อการคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยซ้ำ
แต่ถึงกระนั้น ฤดูกาล 1996 ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่ทีมต้องเผชิญกับความท้าทายและแรงกดดันต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรในโลกของฟุตบอล และเป็นบทเรียนสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
อันดับที่ 32 แมนเชสเตอร์ซิตี้ ปี 2020
มาดูกันที่ฤดูกาล 2020 ของแมนเชสเตอร์ซิตี้กันบ้าง ปีนั้นถือเป็นปีที่แปลกประหลาดสำหรับวงการฟุตบอลทั่วโลก และแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อเรือใบสีฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของฤดูกาลนั้นก็คือการที่สนามฟุตบอลทั่วโลกต้องปิดประตู ไม่ให้แฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนาม บรรยากาศที่เคยคึกคักเต็มไปด้วยเสียงเชียร์กลายเป็นความเงียบงันวังเวง การได้ดูทีมรักลงแข่งขันโดยไม่มีเสียงของเหล่าซิติเซนส์ คอยกระตุ้น อาจเป็นประสบการณ์ที่แสนจะเหงาและแปลกใหม่สำหรับใครหลายๆคน
ยิ่งไปกว่านั้น ในฤดูกาลดังกล่าว ทีมคู่แข่งหลายทีมก็ดูเหมือนจะประสบปัญหาและไม่สามารถรักษามาตรฐานการเล่นที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เส้นทางการลุ้นแชมป์ของแมนซิตี้ ดูเหมือนจะราบรื่นและไม่ยากเย็นเท่าที่ควร พวกเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองได้อย่างง่ายๆ จนบางทีอาจจะทำให้แฟนบอลรู้สึกว่าชัยชนะในครั้งนั้นมันชิลเกินไป และอาจจะไม่ได้มีโมเมนต์ที่น่าจดจำเท่ากับฤดูกาลอื่นๆ ที่ต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนัก
แต่ถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรวมอาจจะดูเงียบเหงาและคู่แข่งอาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ก็ยังคงเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและความสม่ำเสมอของทีมแมนซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา แม้ว่าภาพจำของฤดูกาล 2020 อาจจะไม่หวือหวาเท่าปีอื่นๆ แต่มันก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งหน้าในประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจของสโมสรแห่งนี้อย่างแน่นอน
อันดับที่ 31 แมนเชสเตอร์ซิตี้ ปี 2013
ปีนั้นเรือใบสีฟ้าโชว์พลังเกมรุกได้อย่างน่าสะพรึงกลัว พวกเขากระหน่ำประตูคู่แข่งไปถึง 102 ลูก แต่ที่น่าแปลกใจคือ สิ่งที่แฟนบอลส่วนใหญ่จดจำได้มากที่สุดในฤดูกาลนั้น กลับกลายเป็นการลุ้นแชมป์อันแสนดราม่าของลิเวอร์พูล ที่จบลงด้วยความเจ็บปวดเมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลื่นล้มจนเป็นเหตุให้ทีมเสียประตูสำคัญ และตามมาด้วยภาพน้ำตาแห่งความผิดหวังของ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่ง
ในขณะที่เรื่องราวอันเข้มข้นของลิเวอร์พูลถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แมนเชสเตอร์ซิตี้ กลับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองอย่างค่อนข้างเงียบเชียบ ราวกับว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาถูกบดบังด้วยดราม่าของคู่แข่ง มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยที่ทีมซึ่งทำสถิติยิงประตูมากมาย กลับไม่ได้รับการเฉลิมฉลองอย่างที่ควรจะเป็นในความทรงจำของแฟนบอล
อันดับที่ 30 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ปี 1994
หลายคนอาจจะมองว่าการคว้าแชมป์ของพวกเขาในปีนั้นเป็นเหมือนเทพนิยาย ที่ทีมเล็กๆ สร้างเซอร์ไพรส์ แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นกลับเต็มไปด้วยเงินตรา ที่ถูกทุ่มลงไปอย่างมหาศาลโดย แจ็ก วอล์กเกอร์ เจ้าของทีมผู้มั่งคั่ง
วอล์กเกอร์ไม่ได้ลังเลที่จะควักกระเป๋าจ่ายเงินก้อนโตเพื่อดึงนักเตะระดับคุณภาพเข้าสู่ทีม และผลลัพธ์ก็เป็นที่ประจักษ์ เมื่อแบล็กเบิร์นภายใต้การนำทัพของ เคนนี ดัลกลิช สามารถสร้างปรากฏการณ์โค่นบัลลังก์แชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลงได้อย่างน่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่แชมป์ของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ในช่วงท้ายฤดูกาล ฟอร์มของทีมกลับมาแกว่งอย่างน่าใจหาย พวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัดจาก 6 นัดสุดท้าย ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
และประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ มุมมองของสื่อต่างประเทศที่วิเคราะห์ว่า แบล็กเบิร์นได้รับอานิสงส์จากการถูกแบนยาวของ เอริค คันโตน่า ยอดดาวยิงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งส่งผลกระทบต่อศักยภาพในแนวรุกของปีศาจแดง หลีกเลี่ยงไม่ได้
อันดับที่ 29 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปี 2000
ปีนั้นปีศาจแดงโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งจนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองแบบสบายๆ ด้วยการทิ้งห่างคู่แข่งถึง 10 แต้ม เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ดูเหมือนจะราบรื่นและง่ายดายสำหรับพวกเขา
ภายใต้ความสำเร็จอันสวยงามนั้น ก็มีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจและชวนให้ติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าในช่วงท้ายฤดูกาล แมนฯ ยูไนเต็ด จะพลาดท่าแพ้ 3 เกมติดต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับทีมระดับพวกเขา แต้มที่นำห่างก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาชูถ้วยแชมป์ได้อย่างไม่ยากเย็น
สิ่งที่ทำให้ฤดูกาล 2000 ดูแปลกเป็นพิเศษก็คือการที่ทีมกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ พวกเขากำลังก้าวข้ามจากยุคทองของคู่กองหน้าสุดอันตรายอย่าง ดไวท์ ยอร์ก และ แอนดี้ โคล ไปสู่การรอคอยการเข้ามาของดาวยิงระดับโลกคนใหม่อย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงยุคใหม่ของทีมที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ยังคงถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ การเข้าปะทะอย่างหนักหน่วงของ รอย คีน กัปตันทีมจอมบู๊ กับ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ พ่อของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ในเกมนั้น ซึ่งเป็นชนวนความบาดหมางที่ลากยาวไปหลายปี และกลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกจดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก
ความสนุกที่คุณสัมผัสได้จริง เชียร์ฟุตบอลสดทุกนัดแบบเรียลไทม์ แทงบอลสดลุ้นรับรางวัลมากมาย และสนุกกับ หวยออนไลน์ถูกกฎหมาย จ่ายจริงทุกยอดการเล่นของคุณ
สมัครสมาชิกใหม่วันนี้ รับโบนัสพิเศษ 1,500 บาท เพียงกรอกรหัส DW368 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่